messager
 
องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยยาง info_outline ข้อมูลการติดต่อ
องค์การบริหารส่วนตำบล
ห้วยยาง
อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร
ยินดีต้อนรับ เข้าสู่เว็บไซต์ องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยยาง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร
verified_user สาระน่ารู้
สรรพคุณกัญชา ด้านยาและประโยชน์ในการรักษาโรค
ทำไมกัญชาถึงได้รับการปลดล็อก หลายคนก็อยากจะรู้ว่าสรรพคุณของกัญชาด้านประโยชน์ทางการแพทย์ดียังไง กัญชาช่วยรักษาโรคอะไรได้บ้าง ยืดเยื้อกันมาพักใหญ่ในที่สุดสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ก็ไฟเขียวปลดล็อกกระท่อมและกัญชาออกจากการเป็นยาเสพติดประเภท 5 [อ่านข่าว: สนช. ไฟเขียวให้นำกัญชา - กระท่อม วิจัยทางการแพทย์ รักษาโรคได้] เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ทางการแพทย์นำไปศึกษาถึงสรรพคุณของกัญชาและกระท่อมในการรักษาอาการเจ็บป่วย และเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้ป่วยให้ดีขึ้น ประเด็นนี้ถือเป็นประเด็นที่น่าสนใจมาก ๆ และหลายคนคงอยากทราบสรรพคุณของกัญชา ว่ามีประโยชน์ในทางการแพทย์อย่างไรกันแล้วใช่ไหม กัญชา พืชให้คุณค่าแต่แฝงข้อควรระวัง กัญชาจัดเป็นพืชดอกในตระกูล Cannabaceae มีต้นกำเนิดที่แถบเอเชียกลาง แต่ในปัจจุบันมีการปลูกในหลายพื้นที่ หลายประเทศ โดยกัญชาภาษาอังกฤษเรียกว่า cannabis, Marijuana, Ganja, Hemp เป็นต้น กัญชามีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Canabis sativa L. subs indica เป็นพืชที่มีต้นตัวผู้และต้นตัวเมียแยกกัน โดยสารสำคัญในกัญชาคือสารแคนนาบินอยด์ (cannabinoids) ซึ่งมีมากกว่า 100 ตัว อีกทั้งยังมีสารเตตร้าไฮโดรแคนนาบินอล (Tetrahydrocannabinol-THC) มีอยู่มากในส่วนของยอดช่อดอกกัญชา เป็นสารสำคัญที่มีผลกระตุ้นระบบประสาท ดังนั้นกัญชาจึงเป็นพืชที่ควรใช้อย่างระมัดระวัง เนื่องจากกัญชามีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท ดังนั้นแม้จะมีการปลดล็อกให้นำกัญชามาใช้อย่างถูกกฎหมายได้แล้ว แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะปลูกกัญชาหรือมีไว้ในครอบครองได้นะคะ เพราะจะให้สิทธิเฉพาะ 8 กลุ่มนี้เท่านั้น 1. หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่ศึกษาวิจัยหรือการเรียนการสอนวิชาด้านการแพทย์, เกษตรศาสตร์ 2. หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่ป้องกัน ปราบปรามและแก้ปัญหายาเสพติดหรือสภากาชาดไทย 3. ผู้ประกอบวิชาชีพเครือข่ายแพทย์ไทย และหมอพื้นบ้านตามเงื่อนไขที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด 4. สถาบันอุดมศึกษาที่ศึกษาและวิจัย และเรียนด้านการแพทย์ 5. ผู้ประกอบอาชีพเกษตรที่รวมตัวเป็นวิสาหกิจชุมชนซึ่งจดทะเบียนตามกฎหมาย 6. ผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ 7. ผู้ป่วยที่เดินทางระหว่างประเทศที่มีความจำเป็นต้องใช้ยาเสพติดและพกติดตัว 8. ผู้ขออนุญาตที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเห็นชอบ ทั้งนี้ผู้ที่ได้รับอนุญาตสามารถส่งต่อให้ทายาทหรือผู้ที่ได้รับความยินยอมได้ กรณีที่ผู้ได้รับอนุญาตเสียชีวิตก่อนใบอนุญาตสิ้นอายุ อย่างไรก็ตามองค์กรและบุคคลดังกล่าวมีสิทธิเฉพาะในการขออนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ครอบครองกัญชาและกระท่อมโดยเป็นไปตามเงื่อนไขที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกำหนดและผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ กัญชา รักษาโรคอะไรได้บ้าง สรรพคุณของกัญชาที่เป็นประโยชน์ต่อวงการแพทย์และการรักษาผู้ป่วยตามที่มีรายงาน มีดังนี้ 1. ลดอาการคลื่นไส้-อาเจียนในผู้ป่วยที่รับเคมีบำบัด ภญ. ดร.สุภาพร ปิติพร รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า ประโยชน์ของกัญชามีฤทธิ์ต้านอาเจียน ช่วยในการทำงานของระบบทางเดินอาหาร ทั้งนี้ยังมีหลักฐานทางวิชาการที่สนับสนุนอย่างชัดเจนว่า กัญชามีประโยชน์ในการรักษาผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัดแล้วคลื่นไส้-อาเจียน 2. ลดอาการปวด ข้อมูลจากวารสารเภสัชศาสตร์อีสานระบุว่า สาร THC ในกัญชามีฤทธิ์เป็นยาแก้ปวด ยาลดการอักเสบ และยาต้านออกซิเดชั่น 3. รักษาโรคลมชัก มีงานวิจัยที่ระบุว่า กัญชามีสรรพคุณรักษาโรคลมชักในเด็กที่รักษายาก หรือในผู้ป่วยเด็กโรคลมชักที่ดื้อต่อการรักษาด้วยวิธีต่าง ๆ 4. รักษาโรคปลอกประสาทเสื่อม ในงานวิจัยมีการระบุสรรพคุณของกัญชาที่ช่วยรักษาผู้ป่วยโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็งที่มีภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง หรือโรคเอ็ม เอส นอกจากนี้ผู้ป่วยที่มีอาการปวดเส้นประสาทที่รักษาด้วยวิธีอื่นแล้วไม่ได้ผล ก็มีงานวิจัยที่ระบุว่า สารสกัดจากกัญชาอาจช่วยบรรเทาอาการปวดของผู้ป่วยได้ 5. ช่วยให้ผ่อนคลาย ภญ. ดร.สุภาพร ปิติพร รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า ในตำรับยามีการนำกัญชามาเป็นยาอยู่หลายตำรับ โดยเฉพาะยานอนหลับ ช่วยให้ผ่อนคลาย ทำให้หลับสบายขึ้น อีกทั้งกัญชายังมีส่วนช่วยในการทำงานของระบบทางเดินอาหาร และยังแก้ท้องเสียได้ด้วย 6. อาจช่วยรักษามะเร็งปอด สถาบันวิจัยกัญชาเพื่อการแพทย์ มหาวิทยาลัยรังสิต วิจัยพบว่า สารในกัญชาส่งผลให้ก้อนมะเร็งปอดในตัวหนูทดลองเล็กลงได้ โดยในการศึกษาได้นำสาร THC และสาร CBN ซึ่งเป็นสารบริสุทธิ์ที่แยกได้จากกัญชา ฉีดลงไปที่เซลล์มะเร็งปอดของมนุษย์ในหนูทดลองทุกวัน เป็นเวลา 3 สัปดาห์ กระทั่งพบว่า หนูทดลองที่ได้รับสาร THC และสาร CBN มีขนาดของก้อนมะเร็งเล็กลง จึงสรุปได้ว่า สารทั้ง 2 ตัวมีฤทธิ์ต้านมะเร็งปอดของมนุษย์ในหลอดทดลองและสัตว์ทดลอง (อ่านข่าว ม.รังสิต แถลงผลวิจัยครั้งยิ่งใหญ่ พบสารในกัญชา ช่วยให้ก้อนมะเร็งปอดลดลง) อย่างไรก็ตาม สรรพคุณของกัญชายังจำเป็นต้องมีการศึกษาถึงฤทธิ์ของกัญชาเพิ่มเติม ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยในการใช้กัญชาในทางการแพทย์ และเลี่ยงผลข้างเคียงของกัญชาที่อาจเกิดขึ้นได้ด้วยนะคะ กัญชา ในตำรับยาแพทย์แผนไทย จากข้อมูลในตำราพระโอสถพระนารายณ์ และตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ พบข้อมูลตำรับยาไทยที่เข้ากัญชาอยู่หลายตำรับ ซึ่งรวบรวมมาจากพระคัมภีร์หลายฉบับ แสดงให้เห็นว่า มีการใช้กัญชาประกอบเป็นตัวยาเพื่อบำบัดรักษาอาการป่วยต่าง ๆ มานานหลายร้อยปีแล้ว ทั้งนี้ นพ.ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ ผอ.สถาบันการแพทย์แผนไทย ได้ยกตัวอย่างสรรพคุณตำรับยาไทยที่มีกัญชาเป็นส่วนประกอบ เช่น - ตำรับศุขไสยาศน์ มีสรรพคุณช่วยให้นอนหลับสบาย แก้ปวด เจริญอาหาร ซึ่งนำมาใช้ทดแทนหรือเสริมกับยาแผนปัจจุบันในกลุ่มยานอนหลับ ยาคลายเครียด - ตำรับทำลายพระสุเมรุ มีฤทธิ์ช่วยแก้อาการแข็งเกร็งจากอัมพฤกษ์ อัมพาตได้ - ตำรับน้ำมันสนั่นไตรภพ ช่วยเรื่องท้องมาน ท้องบวม คลายลมในท้อง ท้องอืดจากโรคมะเร็งตับ ใช้ทาบริเวณท้อง - ตำรับทัพยาธิคุณ ช่วยเรื่องโรคเบาหวาน ลดน้ำตาล





นอกจากนี้ยังมีตำรับยาแผนแพทย์แผนไทยอีกหลายชนิดที่มีกัญชาเป็นส่วนประกอบ โดยมีรายละเอียด ดังนี้



โทษของกัญชาที่ต้องระวัง
กัญชาถูกควบคุมให้อยู่ภายใต้กฎหมายเนื่องจากกัญชาถือเป็นสารเสพติดที่ออกฤทธิ์กระตุ้นประสาท กดประสาท และหลอนประสาทในกรณีที่ใช้เกินกำหนดและไม่ถูกวิธี เพราะสารในกัญชาสามารถออกฤทธิ์ต่อจิตและระบบประสาท โดยสารดังกล่าวจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดและสมองอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจทำให้เกิดโทษและอาการข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ เช่น ทำให้ผู้เสพรู้สึกตื่นเต้น ช่างพูด กระสับกระส่าย และหัวเราะตลอดเวลา ก่อนจะกดประสาททำให้มีอาการซึมเศร้า ง่วงนอน เวียนศีรษะ ปากแห้ง หากเสพเข้าไปในปริมาณมาก ๆ จะหลอนประสาท ทำให้เห็นภาพลวงตา หูแว่ว ความคิดสับสน ควบคุมตนเองไม่ได้ นอกจากนี้ นพ.สรายุทธ์ บุญชัยพานิชวัฒนา ผู้อำนวยการสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) ก็ได้เผยผลการสำรวจที่พบว่า ผู้ป่วยเสพติดกัญชามีการเกิดโรคจิตเวชสูงถึงร้อยละ 72.3 รวมไปถึงความเสี่ยงโรคจิต อารมณ์แปรปรวน และโรควิตกกังวล ก็สูงขึ้นด้วย อย่างไรก็ดี แม้จะมีการปลดล็อกกัญชาและกระท่อมออกจากการเป็นยาเสพติดประเภท 5 เพื่อนำไปศึกษาวิจัยเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์แล้ว แต่หากเป็นคนกลุ่มอื่นที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ปลูกหรือครอบครองเพื่อจำหน่ายไม่ถึง 10 กิโลกรัม จะมีโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท และในกรณีที่มีไว้ครอบครองเกิน 10 กิโลกรัม ให้ถือว่ามีไว้เพื่อจำหน่าย ต้องโทษจำคุก 1-15 ปี ปรับ 100,000-1,000,000 บาท เลยทีเดียว ขอบพระคุณ บทความจากเว๊ปไซน์ kapook.com